ครีมลดริ้วรอย รุ่นไหนดี 6 อันดับ ที่น่าซื้อ อัพเดทล่าสุดปี 2567
คุณรู้หรือไม่? การเลือกซื้อครีมลดริ้วรอยแต่ละชนิดนั้นมีทั้ง ครีมลดริ้วรอย นอกจากจะพิจารณาเรื่องของการใช้งานไม่ว่าจะเป็น งบประมาณ คุณภาพ ความทนทาน ชื่อเสียงของแต่ละรุ่นแล้ว ยังควรพิจารณาในเรื่องของพื้นที่ในการจัดวางและพื้นที่ใช้สอยในครีมลดริ้วรอยอีกด้วย โดยวันนี้เราได้จัดอันดับ ครีมลดริ้วรอยแบบที่มีคุณภาพดีมีประสิทธิภาพมาให้คุณได้เลือกกันแล้ว ดังนี้
2. ครีมลดริ้วรอย ทานาคา
3. ครีมลบริ้วรอย 30G ลดรอยตีนกา ครีมลดริ้วรอย ครีมต่อต้านริ้วรอย ครีมริ้วรอย ร่องแก้ม ริ้วรอยหน้าผาก ยกกระชับ ให้ความชุ่มชื้น ชุ่มชื้
4. ครีมลดริ้วรอย บํารุงผิว Dermist All in One Cream 30g
5. ครีมบํารุงรอบดวงตา ครีมลดริ้วรอยรอบดวงตา เจลทารอบดวงตา เจลลดความดําใต้ตา
6. ครีมบํารุงผิวหน้า ต่อต้านริ้วรอย ช่วยให้ความชุ่มชื้น ต่อต้านริ้วรอย
นอกจากนี้ผู้เขียนยังได้รวบรวมข้อมูลของสินค้าที่น่าสนใจแล้วนำมาเปรียบเทียบคุณสมบัติ, ราคาและรีวิวเพื่อจัดเป็น “10 อันดับสินค้ายอดฮิตขายดี” ให้เพื่อน ๆ ได้มีผลิตภัณฑ์คุณภาพดี คุ้มค่าคุ้มราคา ใช้แล้วปลอดภัยและยังเหมาะกับตัวเองอีกด้วย ซึ่งเนื้อหาแต่ละส่วนจะมีอะไรบ้าง ตามมาอ่านกันเลยค่ะ
หลายคนคงเคยใช้ครีมลดริ้วรอยกันใช่ไหมล่ะคะ แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกผิดหวังจากการใช้ครีมลดริ้วรอยแล้วไม่เห็นผล จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีเครื่องสำอางที่อ้างว่าสามารถลดเลือนริ้วรอยได้ เพียงแต่บอกเป็นนัยว่า "ทำให้ริ้วรอยจางลงได้" เท่านั้นค่ะ
อย่างไรก็ตามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีการปรับปรุงส่วนผสมของครีมลดริ้วรอยที่ได้ผ่านการพัฒนาวิจัยโดยผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ครีมที่มีประสิทธิภาพลดเลือนริ้วรอยมีวางจำหน่ายมากขึ้น ไม่ว่าจะผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่ถูกวางขายโดยแบรนด์ชั้นนำ ต่างก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม เพราะแต่ละแบรนด์ต่างก็มีสูตรลับเฉพาะที่ผู้บริโภคเชื่อว่าจะสามารถลดเลือนริ้วรอยออกไปและให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจได้ จนถึงตอนนี้หากใครที่ยังไม่ได้ผลลัพธ์ที่พอใจหลังจากการใช้ครีมต่าง ๆ ลองหันมาใช้ครีมลดริ้วรอยที่เรากำลังพูดถึงดูไหมล่ะคะ
เพื่อน ๆ คงอยากรู้กันแล้วใช่ไหมคะว่าหากเราจะเลือกครีมลดริ้วรอยนั้น จะมีวิธีการเลือกยังไงดี ? ในส่วนนี้เราจึงจะพาเพื่อน ๆ ไปดูส่วนประกอบที่เป็นสิ่งสำคัญในการเลือกครีมลดริ้วรอยกันค่ะ
แน่นอนว่าสิ่งสำคัญในการเลือกครีมลดริ้วรอยก็คือ ส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอย ในปัจจุบันส่วนผสมที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณะสุขมีอยู่ 3 ชนิดด้วยกัน ลองเปรียบเทียบแต่ละชนิดและเลือกที่เหมาะกับริ้วรอยของคุณกันดูนะคะ ส่วนผสม 3 อย่างนั้นจะมีอะไรบ้างนั้น ตามอ่านได้จากด้านล่างนี้เลยค่ะ
สาเหตุหลัก ๆ ของการเกิดริ้วรอยบนใบหน้านั้นมาจาก “ความแห้งกร้าน” ผิวหน้าขาดการดูแลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งใครที่เคยคิดว่าริ้วรอยจะเกิดเมื่อมีอายุมากขึ้นเท่านั้นให้รีบเปลี่ยนความคิดเลยนะคะ เพราะแท้จริงแล้วคนอายุน้อย ๆ ก็สามารถเกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้หากบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้นไม่มากพอ
สกินแคร์ที่คุณควรเลือกทาบริเวณดังกล่าวจึงควรมีมอยเจอร์ไรเซอร์หรือคุณสมบัติช่วยกักเก็บน้ำใต้ชั้นผิวได้อย่างพอเหมาะ (ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน) เช่น เซราไมด์ สารที่มีประสิทธิภาพในการคืนความชุ่มชื้นสูง, กรดไฮยาลูรอนิก ช่วยชะลอความร่วงโรยต่าง ๆ หรือ NMF (Natural Moisturizing Factor) เป็นต้น
เกร็ดน่ารู้ : ริ้วรอยประเภทนี้จะจางหายไปหลังจากอาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ เพราะผิวได้รับความชุ่มชื้นชั่วคราว ดังนั้นใครที่เห็นความแตกต่างระหว่างเวลาส่องกระจกหลังอาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ กับระหว่างวันก็อย่าเพิ่งตกใจไปนะจ๊ะ
คุณสมบัติอีกอย่างของเรตินอลบริสุทธิ์ก็คือ มีคุณสมบัติลดเลือนริ้วรอยได้อย่างรวดเร็ว มีงานวิจัยค้นคว้าและทดลองเกี่ยวกับเรตินอลบริสุทธิ์ จากผลการทดสอบผิวหน้ากับผลิตภัณฑ์ที่มีเรตินอลบริสุทธิ์เป็นส่วนผสม พบว่าริ้วรอยลึกได้จางลงหลังจากใช้ทาบนผิวหน้า 8 สัปดาห์ และให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง 12 สัปดาห์
สำหรับริ้วรอยที่เกิดจากสาเหตุของผิวแห้งนั้น ให้ลองเลือกใช้ครีมที่มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นดูค่ะ หากต้องการลดเลือนริ้วรอย สิ่งสำคัญคือ ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ประกอบไปด้วยส่วนผสม เช่น เซราไมด์, คอลลาเจน และกรดไฮยาลูโรนิก เป็นต้นค่ะ
ผิวของพวกเราประกอบด้วย 3 ชั้น ได้แก่ ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) ชั้นหนังแท้ (Dermis) และ ชั้นไขมัน (Subcutis) ตามลำดับจากภายนอก ผิวหนังชั้นที่เกิดริ้วรอยได้ง่ายคือชั้นหนังกำพร้า แต่หากปล่อยทิ้งไว้นาน ริ้วรอยก็จะไปถึงชั้นหนังแท้จนในที่สุดก็จะกลายเป็นริ้วรอยลึกได้ ดังนั้นทางที่ดีให้ทาครีมที่มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นรอบ ๆ ดวงตาและปากที่แห้งง่ายค่ะ
สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลริ้วรอยพร้อมกับรอยฝ้า แนะนำให้ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่ง ยกตัวอย่างเช่น 4MSK ที่เป็นลิขสิทธิ์ของชิเซโด้ ผลิตภัณฑ์จะมีส่วนผสมที่ยับยั้งการผลิตเมลานินและช่วยปลดปล่อยเมลานินสะสมได้ ซึ่งส่วนผสมตัวนี้กว่าจะผ่านมาให้เราใช้ได้ต้องได้รับการรับรองจาก JFDA หรือ อ.ย. ญี่ปุ่นก่อนค่ะ
นอกจากนี้ยังมีกรด Tranexamic ที่มีประสิทธิภาพที่จะยับยั้งการทำงานของเซลล์เมลาโนไซต์ (Melanocyte) ที่จะเป็นตัวสร้างเม็ดสีเมลานินและผิวหนังที่แห้งแตกเช่นกัน รอยฝ้าที่เกิดจากรังสี UV นั้น แน่นอนว่าอาจจะหลายปัจจัย จากความชราหรือเม็ดสีเมลานิน ผู้ที่กังวลกับเรื่องรอยฝ้า อาจต้องมองหาครีมที่มีส่วนผสมไวท์เทนนิ่งตามข้างบนนี้ดูนะคะ
* ในบทความนี้ “ไวท์เทนนิ่ง” ใช้เพื่อระงับการผลิตเม็ดสีเมลานินและป้องกันจุดฝ้า, กระ
ครีมลดริ้วรอยมีสองประเภท ได้แก่ ประเภทแรกเป็นเนื้อครีมที่มีเนื้อหนัก และอีกประเภทเป็นเนื้อเซรั่มที่ให้ความรู้สึกที่เบากว่า สำหรับเนื้อครีมนั้นมีน้ำมันผสมอยู่จำนวนมาก จึงช่วยให้ผิวของคุณกระชับและให้ความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้ง ในทางกลับกันประเภทเซรั่มเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบลงเนื้อสัมผัสที่บางเบากว่า ช่วยให้ครีมกระจายทั่วใบหน้าได้ง่ายโดยไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ
ตอนนี้สาว ๆ คงจะรู้แล้วว่าครีมลักษณะใดที่เหมาะกับตัวเอง แต่แค่นี้ยังไม่พอที่จะทำให้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ได้อย่างปลอดภัยหรอกนะจ๊ะ โดยเฉพาะคนที่อายุมากแล้วยิ่งต้องระวัง เพราะด้วยความที่ลักษณะผิวของคุณมักจะแห้งง่าย ทำให้เกราะป้องกันผิวอ่อนแอลง ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงสารดังต่อไปนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
วิธีดูปริมาณของสารดังกล่าวให้สังเกตจากลำดับของส่วนประกอบที่ระบุอยู่ข้างฉลากนะคะ โดยจะเรียงจากมากไปน้อย เพราะฉะนั้นรุ่นที่มี Paraben หรือ Phenoxyethanol อยู่อันดับท้าย ๆ ก็จะปลอดภัยมากกว่ารุ่นที่มีสารดังกล่าวอยู่ในอันดับต้น ๆ ค่ะ
สารจำพวกน้ำหอมและสีเติมแต่งมักจะใส่มาในครีมเพื่อเพิ่มความน่าใช้ แต่อาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย เพื่อน ๆ จึงควรเลือกซื้อรุ่นที่เป็นสูตร “No Fragrance ” หรือ “No Color” เพื่อความปลอดภัยค่ะ
ตามปกติเพื่อน ๆ คงคำนึงราคาก่อนที่จะซื้ออยู่แล้ว แต่หลายคนมักจะลืมไปว่าครีมลดริ้วรอยต้องใช้ทาทุกวัน ทำให้หมดไวและยังต้องใช้ระยะเวลาประมาณหนึ่งด้วยกว่าจะเห็นผล ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อรุ่นที่ราคาสัมพันธ์กับคุณภาพและสามารถซื้อใช้ได้อย่างต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของครีม
ใครที่กำลังหาครีมลดริ้วรอยอยู่แสดงว่าต้องเข้าวัยเลข 3 หรือเลข 4 แล้วใช่ไหมล่ะคะ แต่แค่ครีมลดริ้วรอยอย่างเดียวยังไม่พอค่ะ ! หากเพื่อน ๆ อยากได้ความอ่อนเยาว์กลับมาอีกครั้ง ก็ต้องบำรุงแบบเต็มกำลังด้วยครีมที่ช่วยยกกระชับหน้าและน้ำตบ Anti-Aging ที่อุดมไปด้วยส่วนผสมที่สำคัญอย่างเซราไมด์และคอลลาเจนด้วยค่ะ จะมีตัวไหนเด็ด ๆ บ้าง เข้าไปดูกันเลย
เนื้อครีมค่อนข้างเหลว ทาแล้วจึงซึบซาบไวและไม่ทิ้งความมันบนใบหน้า อย่างไรก็ตามยังมีข้อเสียเล็กน้อย คือ กลิ่นน้ำหอมค่อนข้างแรง ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับคนผิวแพ้ง่ายค่ะ ใครที่มองหาครีมลดริ้วรอยที่ราคาไม่แพง ขอแนะนำตัวนี้เลยค่ะ
เนื้อเจลกึ่งครีมมีสีใส เข้มข้น เมื่อสัมผัสกับผิวหน้าจะอ่อนตัวกว่าเดิม ทำให้เกลี่ยง่ายและซึมซาบไว โดยหลังจากใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องรู้สึกว่าผิวละเอียดขึ้นและดูสุขภาพดีกว่าเดิม แต่ยังมีข้อเสีย คือ หลังทาแล้วจะรู้สึกเหนอะหนะเล็กน้อย สำหรับใครที่ไม่ชอบความเหนอะหนะ แนะนำให้ทาก่อนนอนเป็นการมาร์สหน้าไปในตัวได้เลยค่ะ
เนื้อครีมเข้มข้นแต่ซึมซาบไวโดยไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้บนผิวหน้า ช่วยลดความมัน หลังทาแล้วจึงรู้สึกสบายผิว ซึ่งเมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องสัมผัสได้ว่าผิวเรียบเนียน, กระชับและมีสุขภาพดีขึ้น เหมาะกับทุกสภาพผิว
รุ่นนี้มีเนื้อครีมค่อนข้างเข้มข้นแต่เกลี่ยง่าย ทาแล้วจึงซึมซาบไวไม่ทิ้งความมันตกค้าง มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ พร้อมช่วยให้ผิวกลับมาอิ่มน้ำ ลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติได้จริงเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง
ตัวครีมมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ และเนื้อค่อนข้างเข้มข้น แต่เมื่อทาแล้วซึมซาบได้ดี หลังใช้แล้วรู้สึกว่าผิวเนียนนุ่ม กระชับและสุขภาพดีขึ้น ริ้วรอยตื้น ๆ ที่เกิดจากการสูญเสียความชุ่มชื้นค่อย ๆ จางลงเมื่อใช้อย่างเป็นประจำ อย่างไรก็ตามใครที่มีผิวผสมหรือผิวมันแนะนำให้ทาเฉพาะกลางคืนนะคะ เพราะอาจทำให้หน้ามันได้
เนื้อรุ่นนี้มีสีขาวและกลิ่นหอมอ่อน ๆ เมื่อทาแล้วไม่เหนียวเหนอะหนะ หลังจากใช้ไปสักพักสังเกตได้ว่าผิวหน้าแน่น, รูขุมขนกระชับและเนียนละเอียดมากขึ้น ช่วยเติมน้ำให้กับผิวได้ดี แม้จะมีราคาค่อนข้างสูงแต่ปริมาณการใช้งานต่อครั้งเท่าเม็ดไข่มุกเท่านั้น จึงทำให้ใช้งานได้เป็นระยะเวลานาน
แพ็กเกจของรุ่นนี้เป็นแบบหลอด ทำให้พกพาได้ง่าย ส่วนเนื้อครีมมีลักษณะเข้มข้นเป็นสีขาวและมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ทาแล้วค่อนข้างเหนอะหนะเล็กน้อย จึงไม่เหมาะกับคนผิวมัน อย่างไรก็ตาม ถ้าอยากใช้จริง ๆ แนะนำให้ทาเฉพาะกลางคืนนะคะ ในเรื่องผลลัพธ์ ผู้ใช้หลายท่านรีวิวไว้ว่าริ้วรอยตื้น ๆ จางลงได้จริงหลังจากใช้ประมาณ 2-3 เดือนขึ้นไป
อย่างไรก็ตาม รุ่นนี้ยังมีขนาดให้เลือกซื้อค่อนข้างน้อยนะคะ และไซซ์จริงมีราคาค่อนข้างสูง จึงอาจตอบโจทย์ได้ไม่ครบทุกคน แต่ถ้าเทียบกับคุณสมบัติต่าง ๆ ก็ยังถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยค่ะ
เนื้อครีมสีขาวเหลืองให้สัมผัสที่เนียนนุ่ม แน่นและเกลี่ยง่าย แต่หลังจากทาแล้วอาจรู้สึกว่ามีฟิล์มมอยเจอร์ไรเซอร์เคลือบผิวหน้า จึงเหมาะกับผิวแห้ง-ผิวธรรมดามากกว่า แต่ถ้าใครผิวมันแล้วอยากใช้ แนะนำให้ใช้เฉพาะตอนกลางคืนจะดีกว่านะคะ เรื่องราคาอาจจะแรงนิดนึงนะคะ ใครที่มีงบก็แนะนำให้ลองใช้ดูค่ะ
มาดูที่ลักษณะเนื้อสัมผัสกันบ้าง รุ่นนี้มีเนื้อสีขาวค่อนข้างข้นแต่ซึมไว ไม่หนักหน้า ใช้ได้ทั้งก่อนนอนและก่อนแต่งหน้าเลยค่ะ หลังใช้แล้วหลายคนรู้สึกว่าผิวหน้าเนียนนุ่มชุ่มชื้นและมีสุขภาพดีขึ้น
การเตรียมผิวสำหรับทาครีม เริ่มแรกหลังจากการล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้า คือ การทำความสะอาดผิวด้วยโทนเนอร์ เพื่อขจัดสิ่งปลอกปลอมออกจากรูขุมขน เพราะการล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอแล้ว หลังจากนั้น ให้ใช้น้ำตบตามด้วยเซรั่มบำรุงผิว และให้ตบท้ายด้วยครีมลดริ้วรอยนั่นเอง จำง่าย ๆ คือการเรียงลำดับจากเนื้อที่บางเบาก่อนไปหาเนื้อหนัก เพื่อที่จะให้ครีมซึมลงผิวได้อย่างล้ำลึก สำหรับความถี่ในการทาครีมนั้น ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่แนะนำให้ทาครีมสองครั้งต่อวันในตอนเช้าและเย็น ซึ่งอาจจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ ดังนั้นก่อนใช้ เราแนะนำให้อ่านฉลากบนแพ็กเกจให้ถี่ถ้วน
แม้ว่าการดูแลตัวเองอย่างดีจะไม่สามารถหยุดยั้งริ้วรอยร่องลึกได้ 100% เพราะมนุษย์ทุกคนไม่มีใครหนีกฎของธรรมชาติไปได้ แต่อย่างน้อยเราก็สามารถดูดีกว่าคนอื่นในวัยเดียวกันได้นะคะ